ทำไมถึงต้องใช้ Lookalike Audience?
การที่เราจะทำโฆษณาได้สำเร็จหรือเปล่ามันมีเคล็ดลับอยู่ 1 ตัวเท่านั้นครับ นั้นก็คือ “ข้อมูลของลูกค้า” ครับ เพราะว่ายิ่งคุณเข้าใจลูกค้ามากเท่าไหร่ คุณก็จะสามารถขายของให้เขาได้เยอะเท่านั้นครับ
การโฆษณาร้อยทั้งร้อยไม่สามารถที่จะเจาะจงกลุ่มลูกค้าได้ตรงจริงๆ 100% หรอกครับ เพราะฉะนั้นเราเลยต้องมีวิธีที่จะทำยังไงก็ได้ให้เราได้ข้อมูลของกลุ่มลูกค้ามาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ
ถ้าเราได้ข้อมูลของกลุ่มลูกค้าเรามาพอสมควรแล้ว เราก็จะให้เฟสบุ๊คเป็นตัวช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับเราครับ นั้นก็คือการทำ Lookalike Audience นั่นเอง
การทำ Lookalike Audience มันจะเป็นตัวแปรระหว่างคุณทำเงิน 50,000 ต่อเดือนก้าวกระโดดไปยัง 5,000,000 ต่อเดือนเลยครับ เหตุผลง่ายๆก็คือคนส่วนใหญ่ (90%) ไม่สามารถหาข้อมูลของลูกค้าเร็วเท่ากับเฟสบุ๊คได้ครับ และเฟสบุ๊คเขาก็มีข้อมูลของฐานลูกค้าของคุณไว้หมดแล้ว
ถ้าอยากจะพัฒนาแบบก้าวกระโดด คงจะหนีการทำ Lookalike Audience ไม่ได้ครับ
เรามาเข้าใจกันไปคร่าวๆแล้วครับว่า Lookalike Audience มันคืออะไร ตอนนี้เรามาดูต่อกันเลยดีกว่าครับว่าถ้าเราจะทำ Lookalike Audience เราต้องทำยังไง
Lookalike Audiences โดยคร่าวๆนั้นสามารถสร้างมาจาก
- กลุ่มคนที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราผ่านทาง Facebook
- กลุ่มคนที่มา Engage กับ Contents ของเราบน Facebook
- หรือกลุ่มที่เราสร้างขึ้นมาเองเป็น Custom Audience
ทำ Lookalike จาก Custom Audience
เมื่อเรามี Custom Audience แล้ว เราสามารถนำข้อมูลนั้นมาทำ Lookalike เพื่อหากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายๆ กับลูกค้าของเราได้ โดยที่เราสามารถสร้างมันได้ง่ายๆ โดยเลือกไปยัง Custom Audience ที่มีสถานะพร้อม แล้วเลือก Action ไปที่ Create Lookalike ง่ายๆ
ปกติเวลาสร้าง Lookalike นั้น ทาง Facebook จะให้เรากำหนดขนาดของ Audience Size ได้ระหว่าง 1 – 10 % จากจำนวนประชากรใน Location ที่เราเลือก แนะนำให้ใช้เพียงแค่ 1 % ก็เพียงพอ เพราะคนไทยใช้ Facebook เยอะมากๆ แค่ 1 % ก็สามารถสร้าง Lookalike Audience ได้ตั้ง 474,000 Estimated Reach แล้วครับ
รับทําเว็บไซต์ 
แลกลิงค์ 
