ปัจจุบันการใช้บริการ DNS และ CDN ผ่านตัว Cloudflare กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเลยครับ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ก็ Cloudflare นั้นมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งฟรี HTTPS ป้องกัน DDOS ลดการทำงานของเครื่อง Server เป็นต้น
ข้อเสียของ Cloudflare ต่อเว็บไซต์ที่ใช้ Server ในประเทศไทย
Cloudflare ได้ทำ peering ในไทยไว้กับ JasTel แต่ที่ผ่านมาไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนัก เนื่องจากแทนที่การเข้าใช้งานจากในไทยจะจบในไทยดังที่มุ่งหวังไว้ ส่วนใหญ่ผู้ใช้บริการในไทยกลับต้องวิ่งไปจบที่ปลายทางที่สิงคโปร์หรือฮ่องกงแทน ผลคือ Latency จะสูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับการต่อไปยัง Server ที่ตั้งในไทยแบบตรงๆ
ปัญหาก็เกิดซิครับ เพราะผู้ใช้บริการในไทยกลับต้องวิ่งไปจบที่ปลายทางที่สิงคโปร์หรือฮ่องกง ทำให้ทราฟฟิกที่เดิมควรจะวิ่งใน ประเทศ ก็จะถูกสลับไปต่อผ่าน Inter Link แทน ผลที่เกิดขึ้นตามมาคือ ผู้ให้บริการ Hosting จะจำกัด Inter Bandwidth ให้เราค่อนข้างน้อยมาก ถ้ามีคนเข้าเว็บเยอะ Inter Bandwidth จะเต็ม และ Cloudflare ก็จะไม่สามารถติดต่อไปยัง Server ได้ในที่สุด สุดท้ายเว็บก็เลยจะ Connection Timout เข้าไม่ได้ไปทั้งๆที่ Server ไม่ได้ล่ม
ดังนั้นก่อนที่เราจะใช้ Cloudflare ก็ควรจะเช็คก่อนน่ะครับว่า Hosting เราวิ่งออกนอกหรือวิ่งในประเทศจะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาที่หลังครับ ส่วนใครที่ใช้ Server เราตั้งอยู่ต่างประเทศก็จะไม่พบปัญหานี้เลย ดั้งนั้นผมแนะนำว่าถ้ากลุ่มผู้ใช้เราเป็นชาวต่างชาติเป็นหลักให้วางเว็บบน Server นอกแทนไปก่อนครับ เช่น Server ของ DigitalOcean ก็ใช้ได้ดีอยู่ครับ
สำหรับวิธีตรวจสอบว่าหากเข้าเว็บนี้แล้วจะวิ่งไปจบที่ปลายทาง Cloudflare ที่ไหนนั้น สามารถทำได้โดยการใส่ /cdn-cgi/trace เป็น URI ต่อท้ายชื่อเว็บ เช่น
https://www.yourdomain.com/cdn-cgi/trace
สังเกตที่ colo=xxx ถ้าเป็น colo=BKK ก็แสดงว่าวิ่งในไทย แต่ถ้าเป็น SIN=สิงคโปร์ HKG=ฮ่องกง