การทำ HTTPS ใช้แบบฟรี ๆ นั้นมีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมทำกันในปัจจุบันก็คือการทำ HTTPS ผ่าน Cloudflare นั้นเองครับ ซึ่งเป็นวิธีที่น่าจะง่ายอันดับต้นๆ เพราะเราไม่ต้องมาแก้ Config Server พวก Apache2 หรือ nginx เอง แค่คลิกๆๆๆบนหน้าเว็บไม่กี่ขั้นตอนก็ใช้งานได้แล้ว
Cloudflare คือ?
CloudFlare เป็นระบบที่ช่วยรักษาความปลอดภัยให้กับเว็บไซต์จากภัยคุกคามต่างๆ และยังมีประโยชน์ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพในการโหลดหน้าเว็บให้เร็วขึ้น ดังนั้น CloudFlare จึงช่วยลดภาระทางด้าน Bandwidth ของ server ลงไปได้มากจึงเรียกได้ว่าเป็นบริการที่มีประโยชน์และมีความน่าสนใจมากทีเดียว
CloudFlare มีทั้งแบบฟรีและเสียตังค์ (cloud-based services) คล้ายกับ GoogleCDN (Page Speed Service) ในเรื่องเร่งประสิทธิภาพการโหลด
ขั้นตอนการใช้งาน
1. สมัครใช้บริการ
2. ชี้ DNS ไปยังผู้ให้บริการ CloudFlare
ต้องมีอะไรบ้างก่อนสมัครเปิดใช้งาน CloudFlare?
- สามารถ login เข้าจัดการโดเมนของตัวเองได้ (สามารถขอ username/password จากผู้ให้บริการ hosting ได้)
- หรือแจ้งให้ผู้บริการ hosting เปลื่ยน name server ให้เอง
- เปรียบเทียบก่อนและหลัง (Original load time และ Optimized load time) ได้ที่ //www.webpagetest.org/compare
คุณสมบัติ CloudFlare
ปกติส่วนมากแล้ว webmaster ก็จะหา plug-ins ต่างๆ มาติดตั้งที่เว็บไซต์เพื่อป้องกัน spam หากใช้ CloudFlare ก็ไม่จำเป็นแล้วครับ
- ปัองกันการโจมตีจาก hacker (DDoS, SQL injection)
- ป้องกันพวกสแปมบอท (Spam Posting) ซึ่งใช้ฐานข้อมูลจากโครงการอันนี่บอท (Project Honey Pot’s database)
- สามารถตั้งค่า Security ได้ (Security Level)
- Web Optimization ด้วย Rocket Loader
- ฟรี Traffic analytics
- ติดตั้ง apps เช่น Clicky, Google Analytics, Blitz ง่ายๆ ด้วย one-click install
หลังจากติดตั้งและใช้บริการ CloudFlare เราจะได้อะไร?
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ทำให้ผู้ชมเข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและประหยัด Bandwidth ของเว็บไซต์ได้มากขึ้น
- ช่วยรักษาความปลอดภัยของโฮสและเว็บไซต์ ปกป้องคุณจากการโจมตีต่างๆ
- ใช้งานง่าย เพียงแค่ตั้งค่าให้ Name Sever ชี้ไปยัง CloudFLare นอกจากนี้ก็ยังมีบางโฮสที่สามารถติดตั้งได้ผ่าน cPanel ที่ทำให้การติดตั้งและการใช้งานทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว