นี่คือวิธีจัดอันดับเว็บใหม่ล่าสุด หลังจากการใช้ลิงก์วัดมา 20 กว่าปี นี่คือวิธีใหม่จริงเหรอ?
หลังจากโดน Penguin Update ล่าสุดไป ไ่ม่มีอีกแล้ว สำหรับการสร้างลิงก์เองทุกรูปแบบแม้กระทั่งในแบบที่เคยมีพลังแรงที่สุดอย่าง Anchor Text Link วันเหล่านั้นมันไม่หวนกลับมาอีกแล้ว กับการมานั่งเอาคีย์เวิร์ดมาสร้างเป็นลิงก์ตามเว็บโน้นเว็บนี้ที่ PageRank สูงต่างๆ แล้วนั่งรอดูอันดับบน Google ดีวันดีคืน มันจบลงแล้วครับ
ทำไม Google ถึงทำแบบนี้กับตัวเอง กับอัลกอริทึ่มที่เขาสร้างเองขึ้นมากับมือ สาเหตุของความรวยของ Google เอง และทำกับพวกเราที่เฝ้าบ่มลิงก์กันมานานแสนนาน? ก็เพราะว่ามันทำง่าย ทำเองได้ การสร้างลิงก์ถูกใช้ผิดจุดประสงค์หลอก Google กันมานานแสนนาน แทนที่จะเป็นการให้ลิงก์กัน แต่กลับมาสร้างลิงก์กันซะเอง นอกจากนั้น ผมก็เคยทำนายเอาไว้หลายครั้งในบล็อก seodml แห่งนี้ว่าวันนี้ต้องมาถึง ไม่เชื่ออ่านที่นี่
แต่วันนี้ถ้าอยากจะรู้สึกดีๆ แบบนั้นอีกล่ะ วันนี้ Google เขาอัลกอริทึ่มอะไรมาแทน Link Building?
Co-Citation & Co-Ocurrance
“เราขอแนะนำ Co-Citation & Co-Ocurrance” ฟังแล้วเหมือนรายการขายเครื่องออกกำลังกายตอนกลางคืนเลย เอาล่ะ มันคืออะไรกันเนี่ย คำแปลกๆ สองคำนี้ เริ่มจากเทคนิคแรกกันก่อน Co-Citation ฟังดูอาจจะแปลกๆ ถ้าผมจะบอกว่ามันคือเทคนิคการลิงก์หากันโดยไม่มีลิงก์…
กับการลิงก์แบบ Anchor Text ที่ต้องมีลิงก์จริงๆ สร้างด้วยคีย์เวิร์ดโยงมาหากัน แต่สำหรับ CC นี้ หมายถึง คุณจะทำอันดับได้ดีบน Google เหมือนมีลิงก์มากมายก็ต่อเมื่อ เว็บคุณถูกพูดถึงบ่อย (จากชื่อหรืออะไรผู้เชี่ยวชาญกำลังทดสอบ) ถ้าจะให้เจาะจงกว่านั้นอีกหน่อยคือ Google จะดูความสอดคล้องของเนื้อหาเว็บของคุณกับเว็บของคนอื่นที่มีการพูดถึงหรืออยู่ในอันดับที่ดีอยู่ก่อนแล้ว และเว็บคุณยังจะต้องถูกพูดถึงจากเนื้อหาเว็บคนอื่นที่เขียนถึงเว็บที่อันดับดีอยู่ก่อนแล้วด้วย
ทำให้เห็นได้ว่า เว็บเพจสามารถได้อันดับ (Rank) ดี ๆ ได้ โดยที่ไม่มีหรือแทบจะไม่มี SEO On-Page Factors หลัก ๆ เช่น เว็บเพจติดอันดับดี ๆ (5 อันดับแรก) โดยที่ไม่มี Keywords ที่ติดอันดับอยู่ในใน Title tag และ Url เลย ซึ่งเื่อเป็นเช่นนี้แล้วเราก็ต้องหันมาดูกันที่ Offpage แน่นอน ซึ่งพอไปดู Backlinks ก็ปรากฏว่า Backlink เหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ได้บอกว่า เพจปลายทางเป็นอะไร บ้างก็บอกชื่อเว็บไซต์แล้วลิ้งค์กลับมา (ตัวอย่าง Open site explorer) บ้างก็ใช้ชื่อเว็บอีกแต่ว่าลิ้งกลับมาที่โฮมเพจ ซึ่งเพจจริง ๆ ที่พูดถึงนั้นเป็นเพจหน้าใน (ตัวอย่าง Thomas Net) แต่บางอันนี่ไม่แม้แต่จะ Link กลับมา เพียงแค่เป็นข้อความพูดถึงชื่อเว็บเท่านั้น (ตัวอย่าง Consumer Reports) ซึ่งบ่งบอกถึงการพัฒนา Algorithm ของ Google ที่ชัดเจนมาก เพราสามารถใช้วิเคราะห์เนื้อหาได้ว่าเกี่ยวกับอะไร และเกี่ยวกับเว็บอื่นหรือไม่ ถึงแม้มันอาจจะยังไม่เป็น Algorithm ที่เห็นผลชัดเจนทางในปัจจุบัน แต่มันต้องมาแน่นอนในอนาคต
แต่หากเป็นแบบนี้ผมก็ยังคิดว่า Bot Google ก็ยังไม่น่าจะเก่งพอสำหรับภาษาอื่น ๆ หลาย ๆ ภาษาในโลกนี้ เพราะแม้แต่ตัวแปลภาษาเองยังทำได้ไม่ดีนัก ซึ่งหากระบบเป็นแบนี้ก็คิดว่ากว่าจะใช้ Algorithm นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพกับภาษาไทยคงใช้เวลาไม่น้อย
สรุป มันคืออัลกอริทึ่มแห่งการพูดถึงกันมากกว่าการลิงก์ถึงกัน ที่ Google ได้เริ่มใช้เป็นอัลกอริทึ่มหลักในการจัดอันดับเว็บกันแล้ว คือสิ่งที่จะมาแทนลิงก์ค่อนข้างแน่นอน เพราะมีคนทดลองแล้วพบผลลัพธ์ตรงกับเรื่องนี้มากมาย
ส่วนเรื่อง Co-Ocurrance มันก็คือการใช้หลักการเดียวกันกับ Co-citation แต่เป็นภายในเว็บไซต์เดียวกันเหมือนกับการสร้าง Internal Linking โดยไม่ต้องใช้ลิงก์นั่นเอง เอาล่ะ เตรียมตัวกันให้ดี เพราะในอเมริกากับอีกหลายประเทศใหญ่ๆ มันเริ่มแล้ว